Tuesday, January 17, 2012

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น IVL พร้อมจุดเข้าลงทุนความเสี่ยงต่ำ และจุดขายทำกำไร ณ 2011Q3

ผมชำแหละงบการเงินของหุ้น IVL ด้วยสมมุติฐานแนวโน้มของรายได้สะสมแบบเติบโตก้าวหน้า (quadratic) แบบเติบโตคงที่ (linear) และแบบอิ่มตัว (saturated) และด้วยสมมุติฐานว่าจะลงทุนในธุรกิจนี้ เพื่อสะสมกำไรของผู้ถือหุ้นไปจนครบสิบปี แล้วขายกิจการทิ้งทั้งหมดด้วยราคา 10x (ขอบล่าง) ถึง 15x (ขอบบน) ของกำไรของผู้ถือหุ้นที่ทำได้ในปีสุดท้าย 

เป็นที่แน่นอนว่าแนวโน้มทั้งสามแบบดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้ แต่เราสามารถกำหนดโอกาสในการเกิดเหตุการณ์แต่ละแบบด้วยสัดส่วนที่เราผู้ประเมินมูลค่าที่แท้จริงของกิจการคิดว่าน่าจะสมจริงมากที่สุด ในกรณีของหุ้น IVL ผมคิดว่า โอกาสเกิดแนวโน้มแต่ละแบบน่าจะออกมาในรูป
  • รายได้สะสมเติบโตก้าวหน้า มีโอกาสเกิดขึ้น 70%
  • รายได้สะสมเติบโตคงที่ มีโอกาสเกิดขึ้น 20%
  • รายได้สะสมเติบโตอิ่มตัว (1.005 เท่าของไตรมาสก่อนหน้า) มีโอกาสเกิดขึ้น 10%
ดังนั้นมูลค่าของกิจการที่เกิดจากส่วนผสมดังกล่าวจึงหาได้จากการเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักดังนี้

กรณี 10x;
มูลค่ากิจการ = (316,171.32 x 0.70) + (70,656.35 x 0.20) + (9,200.10 x 0.10) = 236,371.20 ล้านบาท (ขอบล่าง)

กรณี 15x;
มูลค่ากิจการ = (397,873.90 x 0.70) + (83,875.54 x 0.20) + (10,285.77 x 0.10) = 296,315.41 ล้านบาท (ขอบบน)


2012-01-17 IVL intrinsic business values, low-risk entry and safe exit as of 2011Q3


ในปัจจุบัน IVL มีจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 4,814.26 ล้านหุ้น ดังนั้นมูลค่าที่แท้จริงของกิจการจึงคิดเป็นมูลค่าต่อหุ้นได้ 49.10 บาท (ขอบล่าง) ถึง 61.55 บาท (ขอบบน)

โมห์นิศ ปะไพร แนะนำว่าจุดเข้าลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ คือจุดที่หุ้นมีราคาต่ำกว่า 50% ของมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งอยู่ในช่วง 24.55 บาท (ขอบล่าง) ถึง 30.77 บาท (ขอบบน) ในการลงทุนของโมห์นิศ ปะไพร มีบ่อยครั้งที่เขาเข้าลงทุนที่ระดับความเสี่ยงต่ำนี้ แต่ราคาหุ้นยังคงตกต่อไปอีกจนถึงราคา 25% ของมูลค่าที่แท้จริง ตรงนี้เองที่เราต้องอดทน เพราะไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับเราหรือไม่

โมห์นิศยังแนะนำอีกว่า เขาจะขายหุ้นออกไปถ้าราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 90% ของมูลค่าที่แท้จริงของกิจการในขณะนั้น แล้วรอคอยโอกาสลงทุนใหม่ ๆ ที่มีมาให้เลือกศึกษาอยู่ไม่ขาด ณ ไตรมาส 2011Q3 จุดขายหุ้นที่ปลอดภัยอยู่ที่ 44.19 บาท (ขอบล่าง) ถึง 55.39 บาท (ขอบบน) เพื่อนนักลงทุนอาจจะสงสัยนะครับว่า อย่างนี้ก็ไม่มีโอกาสขายหุ้นแบบกำไรหลายเด้งน่ะสิ ผมขอตอบว่า ไม่จริงครับ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป กิจการอาจจะมีกำไรของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้สมการแนวโน้มรายได้สะสมเพิ่มค่าขึ้นเร็ว กว่าในปัจจุบัน เป็นผลให้ประมาณการกำไรของผู้ถือหุ้นในอนาคต และมูลค่าที่แท้จริงของกิจการเพิ่มค่าขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้นจุดขายที่ 90% ของมูลค่าที่แท้จริงจะเลื่อนตามขึ้นไปด้วยครับ 


===================================================

ติดตาม "ลงทุนหุ้นไทย ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา" ที่
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา "ชำแหละพื้นฐานหุ้น "