Friday, December 7, 2012

หุ้น CK สร้างกราฟรูปถ้วยกาแฟเสร็จแล้ว ส่วนจะมีหูจับหรือไม่ต้องตามดูต่อไป การ let profit run ต้องทำอย่างไร ?

     หลังจากที่หุ้น CK ได้รับสัญญาณฟ้าเปิด (รัฐบาลจริงจังกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และรัฐบาลลาวเดินหน้าโครงการเขื่อนไซยะบุรีอย่างเป็นทางการ) เป็นผลทำให้ [ ราคาหุ้นหลุดออกจากแนวโน้มขาลง ] และไต่ขึ้นไปหาระดับจุดสูงสุดเดิมอย่างรวดเร็ว ดังภาพข้างล่าง และในวันนี้ (7 ธ.ค. 2012) ได้ขึ้นมาปิดบนเส้นแนวต้านหลักสีแดงแนวนอนที่ 11.40 บาท เมื่อมองตามแนวเส้นสีชมพูจะเห็นกราฟเป็นรูปถ้วย มีระดับปากถ้วยอยู่ที่ 11.40 บาท ก้นถ้วยอยู่ที่ 5.55 บาท เมื่อราคาหุ้นขึ้นชนจุดสีเขียวแล้ว อาจจะพุ่งผ่านระดับปากถ้วยขึ้นไปเลย หรืออาจรีรอย้ำฐานที่ระดับปากถ้วยให้แน่นก่อนค่อยไปต่อ ถ้ามีการย้ำฐานให้แน่น กราฟบริเวณนั้นจะมีลักษณะออกด้านข้างคล้ายรูปหูจับของถ้วย 
     ไม่ว่าจะมีหูจับเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ในทางทฤษฎี เมื่อผ่านระดับปากถ้วยขึ้นไปได้แล้ว ราคาหุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปจนถึงเป้าหมายที่อยู่สูงจากปากถ้วยเท่ากับความลึกของถ้วย หรือที่ 11.40 + (11.40 - 5.55) = 17.25 บาท ปรับสเปรดให้ลงตัวเป็น 17.20 ดังนั้นในตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือ การตั้งหลักเกณฑ์ "ประคองให้กำไรได้มีโอกาสเติบโตตามศักยภาพ" หรือ let profit run จากรูปผมจะใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 40 วัน หรือ SMA40D สีเหลือง เป็นเครื่องมือบ่งชี้ว่าเมื่อใดควรขายทำกำไรทั้งหมดหรือบางส่วน โดยมีหลักเกณฑ์ว่า ตราบใดที่ราคาหุ้นยังคงปิดเหนือเส้นนี้อยู่ เราก็ถือหุ้นไปเรื่อย ๆ  และจะขายทำกำไรบางส่วนหรือทั้งหมดเมื่อมีการปิดต่ำกว่าเส้นดังกล่าว การทำตามเกณฑ์ดังว่านี้ เรียกว่า การขายตามระบบ ครับ 



   การที่ผมกล่าวว่า เมื่อราคาหุ้นปิดต่ำกว่า SMA40D แล้วต้องขายบางส่วนหรือทั้งหมดหมายความว่ายังไง ? ก็หมายความว่า นักลงทุนที่มองภาพใหญ่และเชื่อว่า ซุปเปอร์ไซเคิลของ หุ้นรับเหมาก่อสร้างได้เริ่มขึ้นแล้ว และจะยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายปี จะเก็บหุ้นไว้บางส่วนไม่ขายทำกำไรออกมาหมด เนื่องจากการแรลลี่ราคากับการพักปรับฐานจะเกิดขึ้นสลับกันไปเรื่อย ๆ ดังนั้น หากจะขายทำกำไร ก็ควรจะขายเฉพาะส่วนที่คาดว่า ราคาหุ้นจะพักปรับฐานลงมา เช่น คาดว่า ราคาหุ้นจะแรลลี่ไปจนชนเป้าหมายที่ 17.20 บาทแล้วพักปรับฐานลงมา บ่อยครั้งจะลงมาได้มากถึงระดับสูงสุดเดิม ในที่นี้คือ 11.40 บาท ก็ขายเฉพาะหุ้นที่เข้าซื้อด้วยต้นทุนเกิน 11.40 บาท ส่วนที่ซื้อต่ำกว่า 11.40 บาท เก็บไว้ไม่ขาย เงินที่ได้จากการขายหุ้นส่วนที่ราคาเกิน 11.40 บาท ก็นำไปใช้หนี้ หรือถ้าไม่มีหนี้ก็เก็บไว้รอเข้าซื้อตอนที่ราคาหุ้นพักปรับฐานลงมา โดยมากเราจะไม่ทราบว่าหุ้นจะพักปรับฐานลงมามากน้อยเพียงใด แต่การขายหุ้นส่วนที่ต้นทุนสูงกว่าราคาสูงสุดเดิมออกไปก็เป็นมาตรการที่ใช้ได้ค่อนข้างดีครับ

สรุป

  • หากราคาหุ้นปิดเหนือ SMA40D ไม่ทำอะไร let profit run ถ้ามีเงินเหลือจะซื้อเพิ่มไปเรื่อย ๆ ก็ได้ แต่ต้อง cut loss ที่ 10% เสมอ
  • หากราคาหุ้นปิดต่ำกว่า SMA40D ขายทั้งหมด หรือเฉพาะส่วนที่ต้นทุนสูงกว่า 11.40 บาท เก็บเงินสดรอเข้ารอบใหม่ตอนราคาหุ้นปรับฐานลงมาแล้วค่อยเข้าใหม่
  • ปกป้องพอร์ตโดยรวมตาม [ แผนปกป้องมูลค่าพอร์ตภาคปฏิบัติ ]

Short URL =  
http://bit.ly/YHVI2v

อ่านบทความเกี่ยวกับ CK ทั้งหมดได้ [ ที่นี่ ]

==============================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ + เงินสด + มูลค่าปัจจุบันของ [ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลรับระหว่างถือหุ้น 10 ปี ]

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"