Saturday, August 4, 2012

สามสิงหา ถึงเวลาปรึกษา big picture อีกครั้ง

     ระหว่างวันหยุดอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 2555 มีข่าว FED ไม่ออก QE3 ไม่ลดดอกเบี้ย หรือแม้แต่จะยืดอายุ Operation Twist ส่วน ECB ก็ไม่ลดดอกเบี้ย บอกแต่เพียงว่า ในหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ ECB จะ "วางโครงร่าง" ว่าจะซื้อตราสารหนี้ในลักษณะใดจึงจะทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรของประเทศในยูโรโซนลดต่ำลงมา โดยสรุปก็คือยังไม่มีการทำอะไรออกมาอย่างที่ตลาดหุ้นทั่วโลกคาดหวัง ผมจึงคิดว่าถึงเวลาต้องปรึกษา Big Picture อย่างที่เคยทำมาเป็นระยะแล้วครับ
     ผมวาดกราฟดัชนี SET ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาดังภาพข้างล่าง จากนั้นจึง ลากเส้นตรงเชื่อมยอดสูงสุดหมายเลข 1 และ 2 เกิดเป็นเส้นตรง A ขึ้น จากนั้นผมลากเส้นคู่ขนานกันกับเส้นตรง A ให้ผ่านจุดต่ำสุดเมื่อต้นปี 2007 เกิดเป็นเส้นตรง B เส้นตรงสองเส้นนี้ได้ฟอร์มตัวเกิดเป็นช่องแนวโน้มขาขึ้นของดัชนี SET ผมวัดความกว้างของช่องแนวโน้มนี้ได้ดังลูกศรตรงกลางทางซ้ายมือ จากนั้นผมสร้างเส้นคู่ขนานกับเส้นตรง B โดยวางไว้ใต้้เส้นตรง B เป็นระยะห่างเท่ากับลูกศรแสดงความกว้างของช่องแนวโน้ม A-B ดังลูกศรทางซ้ายมืออันล่างสุด เกิดเป็นเส้นตรง C ซึ่งลากผ่านจุดต่ำสุดเมื่อปลายปี 2009 พอดี และเกิดเป็นช่องแนวโน้มขาขึ้น B-C สุดท้ายผมสร้างเส้นคู่ขนานกับเส้นตรง A โดยวางไว้เหนือเส้นตรง A เป็นระยะห่างเท่ากับลูกศรแสดงความกว้างของช่องแนวโน้ม A-B ดังลูกศรทางซ้ายมืออันบนสุด เกิดเป็นเส้นตรง D และเกิดเป็นช่องแนวโน้มขาขึ้น D-A


     เมื่อได้ช่องแนวโน้มขาขึ้นของดัชนี SET ออกมาสามช่องแล้ว จะสังเกตได้ว่า ดัชนี SET ใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบสิบปีมานี้อยู่ในช่องแนวโน้ม A-B มีเป็นบางช่วงสั้น ๆ เท่่านั้นที่เกิดการปรับฐานหนักลงไปอยู่ในช่อง B-C สำหรับในปัจจุบันจะเห็นว่าดัชนี SET ได้เคลื่อนออกจากช่องแนวโน้ม A-B มาอยู่ที่กลางช่องบนสุด D-A แล้วหลังจากที่เข้ามาแล้วลังเล ๆ อยู่ระยะหนึ่ง ผมแบ่งช่องแนวโน้ม D-A นี้ ออกเป็น 6 ช่องย่อยซึ่งมีความกว้างเท่า ๆ กัน พบว่า ดัชนี SET ทำจุดสูงสุด-ต่ำสุดตามแนวเส้นแบ่งช่องย่อยดังกล่าวได้ดีพอสมควร ดังนั้นจากนี้ไป คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวไปในช่องแนวโน้ม D-A โดยไต่ระดับขึ้นลงตามแนวเส้นแบ่งช่องย่อย เนื่องจากเส้นตรง A เคยเป็นแนวต้านหลักที่สกัดดัชนี SET ไว้ได้แล้วถึงสองครั้ง คือเมื่อต้นปี 2004 (จุด 1) และปลายปี 2007 (จุด 2) ดังนั้นในขณะนี้จึงกลายเป็นเส้นแนวรับที่แน่นหนาพอสมควร หากไม่เกิดวิกฤติที่หนักหนาสาหัสเหมือนซับไพรม์ในปี 2008-2009 ดัชนี SET คงจะไม่ทะลุต่ำกว่า 1,000 จุดอีกแล้วล่ะครับ
     ท้ายสุดผมลองวาดช่องแนวโน้มของดัชนี SET เฉพาะช่วงหลังวิกฤติซับไพรม์เป็นต้นมาได้ดังช่องแนวโน้มสีชมพู เมื่อพิจารณาเส้นขอบบนของช่องแนวโน้มสีชมพูจะพบว่าไปตัดกันกับเส้นตรง D สีแดงที่วงกลมสีชมพูพอดี ตรงนี้เองที่นักวิเคราะห์หลายท่านบอกว่าปีนี้ดัชนี SET น่าจะไปได้ถึง 1,350 จุด ผมไม่อาจทราบได้ว่าท่านเหล่านั้นคิดตัวเลขนี้ออกมายังไง แต่คิดง่าย ๆ อย่างที่ผมพาเพื่อนนักลงทุนทำมานี้ก็ได้ตรงกันครับ

===================================================


==============================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน เพิ่มพูนกระแสเงินสด

มูลค่ากิจการ = ส่วนของเจ้าของ + มูลค่าปัจจุบันของ [ส่วนของเจ้าของที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลที่ได้รับระหว่างเป็นเจ้าของกิจการ 10 ปี]

ค้นหาในเฟซบุ๊ค "thstockinvest"
ค้นหาในกูเกิล "ลงทุนหุ้นไทย thstockinvest"