Friday, November 30, 2012

อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันฉันรักเธอ (Facebook) เผลอลืมขึ้นแนวโน้มใหม่ ก็ยังมั่นใจว่าฉันรักเธอ


        สมัยผมเป็นเด็กมีเพลงฮิต "ปัจจุบันฉันรักเธอ" ของวงชาตรี ดังเป็นพลุแตก วันนี้ผมดูกราฟหุ้น Facebook แล้วเผลอร้องเพลงนี้ออกมา เพราะนับแต่เข้าซื้อขายในตลาด NASDAQ ราคาหุ้น FB ก็จมปลักอยู่แต่กับอดีตอันขึ่นขม ซมซานไปตามช่องแนวโน้มขาลงสีแดงอย่างที่เห็นในภาพข้างล่าง วันนี้เป็นวันแรกที่เธอสามารถโผล่หน้าออกจากช่องแนวโน้มขาลง ทะลุออกมาได้ นิส...นุง เป็นการโผล่ออกมาโดยทำภารกิจต่าง ๆ ที่ควรทำเสร็จหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปิดช่องแก็ปที่เปิดทิ้งเอาไว้ เมื่อตอนที่เธอถูกแฟนเก่าทิ้งอย่างไม่ใยดี (ลูกศรดำ) หรือการลืมอดีตที่มืดมนเดินหน้าสู่อนาคตที่สดใสกว่า โดยก้าวข้ามเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน (สีเหลือง) พาตัวเองขึ้นไปอยู่ในช่องแนวโน้มใหม่ขาขึ้นสีเขียวช่องบน จากนี้ไป ท้องฟ้าดูโล่ง ปลอดอุปสรรคระยะสั้นไปจนถึงระดับ 30 USD ท่านที่เกิดไม่ทันสาว ๆ รุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็น ไมโครซอฟท์  อีเบย์  ยาฮู  กูเกิ้ล  หรือ  แอปเปิ้ล  ไม่ต้องเสียดาย  ตอนนี้ สาวน้องใหม่ เฟซบุ๊ค TV27 หัวใจว่างแล้ว เปิด SMS รอรับโหวต ส่งเข้ามากันได้เลยครับ

"อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันฉันรักเธอ (Facebook) เผลอลืมขึ้นแนวโน้มใหม่ ก็ยังมั่นใจว่าฉันรักเธอ" ฟังเพลงฮิตในอดีตได้ [ ที่นี่ ]



Short URL = http://goo.gl/YfJma

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ + มูลค่าปัจจุบันของ [ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลรับระหว่างถือหุ้น 10 ปี ]

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

Thursday, November 29, 2012

คลิปสอน การหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ ตามแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์

     ผมบังเอิญไปพบคลิปสอนการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น โดยการแกะรอยจากคำพูดที่บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ในโอกาสต่าง ๆ เชิญศึกษาดูได้เลยครับ




Short URL = http://goo.gl/srZLe

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

กิจการโตเร็วหรือช้า แค่ไหน ให้ดูที่การเปลี่ยนแปลงของ book value


     วันนี้ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากมายจริง ๆ จากการค้นพบ คลิปสอนลงทุนโดยบังเอิญ จัดว่าเป็นลาภลอยก็ไม่ผิดนัก หลังจากดูคลิปชุดนี้ไปสักพัก ก็ เกิดอาการ "ตาสว่าง" หายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าง่วงเหงาหาวนอน จากการทำงานมาทั้งวัน คลิปข้างล่าง มีชื่อเกี่ยวกับ ROE ก็จริง แต่เนื้อหาอธิบายให้เราเข้าใจ book value ของกิจการอย่างลึกซึ้ง ดูจบสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงค่าของ book value ตัดสินว่ากิจการเติบโตช้าเร็วอย่างไร ลองศึกษาดูกันได้เลยครับ




Short URL = http://goo.gl/45NTe

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

อย่าคำนวณ ROE แบบผิวเผิน กันถูกหลอกด้วยการหัก "กู๊ดวิลล์" และ "สินทรัพย์ไม่มีตัวตน" ออกก่อนเสมอ

     ปัจจัยพื้นฐานสำคัญอันหนึ่งที่นักลงทุนควรใช้ในการส่องดูศักยภาพของกิจการที่กำลังสนใจเข้าลงทุนคือ อัตราส่วน ROE หรือ return on equity ซึ่งตามปกติแล้วจะหาได้จาก กำไรที่กิจการสร้างขึ้นได้ (return) หารด้วย ส่วนของผู้ถือหุ้น (equity) พูดง่าย ๆ แบบบ้าน ๆ ROE คือ ตัวชี้วัดว่า กิจการสามารถสร้างกำไรคิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของเงินที่ผู้ถือหุ้นเอามาลงทุน เงินที่ผู้ถือหุ้นเอามาลงทุนนี้มีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ บ้างก็เรียก book value (มูลค่าทางบัญชี) บ้างก็เรียก net asset value (มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ) บ้างก็เรียก equity (ทุน) ชื่อเรียกอันสุดท้ายนี้บ่งบอกว่า เงินที่ผู้ถือหุ้นเอามาลงทุนหาได้จากการเอา assets (สินทรัพย์) ลบออกด้วย liabilities (หนี้สิน) ตามหลักการพื้นฐานทางบัญชีที่ว่า สินทรัพย์เท่ากับหนี้สินบวกทุน นั่นเอง 
     แต่ช้าก่อน ถ้าท่านดูแค่นี้ท่านอาจจะถูกหลอกได้ เนื่องจากในบางกิจการ มูลค่าสินทรัพย์อาจจะมีสิ่งที่เรียกว่า กู๊ดวิลล์ (goodwill) และ สินทรัพย์ไม่มีตัวตน (intangible assets) แฝงอยู่ในนั้นด้วย สำหรับวอร์เรน บัฟเฟตต์แล้ว เขาจะหักกู๊ดวิลล์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนออกจากสินทรัพย์ก่อน แล้วค่อยเอาไปคำนวณหา ROE เนื่องจากสินทรัพย์ลบหนี้สินอยู่ในตัวหารของ ROE ดังนั้นตัวหารที่หักกู๊ดวิลล์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตนออกแล้วจะมีค่าสูงกว่า ROE ปกติ และจะฉายให้เราเห็นศักยภาพของกิจการที่อาจจะดูไม่โดดเด่นอะไร เนื่องจาก ROE ที่มองอย่างผิวเผินไม่ได้มีค่ามากมายอะไร ดังนั้นเราจึงมีโอกาสเห็นความน่าลงทุนก่อนคนอื่นครับ ความรู้ใหม่ที่เล่ามานี้ ผมได้มาจากการชมคลิปอธิบายเรื่องเกี่ยวกับกู๊ดวิลล์ข้างล่าง เชิญเพื่อนนักลงทุนศึกษาดูเพิ่มเติมได้เลยครับ




Short URL = http://goo.gl/g3urm

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

คลิปอธิบาย "กำไรของผู้ถือหุ้น"

     วันนี้ผมบังเอิญได้ลาภจากการค้นคว้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ไปเจอคลิปอธิบายความหมายและการหาค่าของกำไรของผู้ถือหุ้น ทำให้ได้รู้ว่าที่ผมทำมานั้นถูกแล้ว ลองศึกษาดูกันได้เลยครับ




Short URL = http://goo.gl/14vZ2

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

SET กำลังฟอร์มรูปกราฟแบบถ้วยกาแฟซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่ 1350 จุด

     หลังจากที่ดัชนี SET ผ่านเส้น supply line ขึ้นไปได้ นิส...นุง เมื่อวานนี้ ดัชนีได้ไต่ระดับสูงขึ้นไปอีกจนปิดตัวลงที่ระดับใกล้เคียงกับระดับปิดสูงสุดในรอบสองเดือน 1,311.35 จุด ดังกราฟเส้นสีแดงในภาพข้างล่าง ทำให้เกิดกราฟรูปถ้วยที่ภายในประกอบด้วยจุดต่ำสุดสามจุด เป็นการพักปรับฐานแบบ triple bottom ซึ่งผมได้วาดแนวของรูปถ้วยด้วยเส้นสีชมพู หากวัดจากก้นถ้วยถึงปากถ้วยจะได้ความสูงเท่ากับเส้นตรงแนวตั้งที่มีหัวลูกศรสีชมพู ได้เป็นเป้าหมายของดัชนีที่ 1,350 จุด ถ้วยสีชมพูดังกล่าวอาจมีหูจับหรือไม่ก็ได้ แต่มีหูจับจะดีกว่า ซึ่งอาจมาในรูปของการที่ดัชนีโผล่เหนือเส้นแนวนอนสีดำซึ่งเป็นระดับปากถ้วยขึ้นไปแล้วเคลื่อนออกข้างสักระยะเกิดเป็นหูจับขึ้นก่อนแล้วค่อยไต่ระดับไปสู่เป้าหมายต่อไป ตามทฤษฎีบริเวณหูจับควรกินเวลาประมาณ 7 วันครับ ขณะนี้ดูรูปการณ์แล้วจะออกแนวสบาย ๆ เพราะดัชนีเริ่มเคลื่อนออกห่างเส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มใหญ่ แต่ก็ยังห่างไกลจากเส้นขอบบนของช่องแนวโน้มใหญ่ ครับ   



Short URL = http://goo.gl/yWwEc

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)


ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"


 facebook.com/truestockvalue

 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"


Wednesday, November 28, 2012

SET ทะลุแนวต้านสุดท้ายออกมาได้ นิส...นุง

     เมื่อวานเป็นวันที่ดัชนี SET เคลื่อนเข้ามาประชิดเส้น supply line พร้อมที่จะทะลุออกมาจากแนวต้านสุดท้าย วันนี้ตอนเช้า สภามีมติไว้วางใจรัฐบาล ภาคบ่าย กนง. คงดอกเบี้ย ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ "นิส...นุง" ทำให้ดัชนี SET ทะลุออกไปปิดเหนือเส้นแนวต้านสุดท้ายนิดหน่อย ตามที่แสดงไว้ในวงกลมเขียวในภาพข้างล่าง จะออกมาเต็มตัวหรือไม่ หรือแค่แหย่เท้าคลำทาง ต้องดูต่อไปอีกวันสองวัน สำหรับปริมาณเงินลงทุนของต่างชาติกราฟเส้นสีน้ำเงินอยู่ที่กึ่งกลางช่องแนวโน้มสีน้ำเงินพอดี จะสามารถย้ายมาประจำอยู่ในครึ่งบนอย่างถาวรได้หรือไม่ต้องดูต่อไปเช่นเดียวกัน ครับ   




Short URL = http://goo.gl/q6B84

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)


ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"


 facebook.com/truestockvalue

 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"


ราคาหุ้น FB จ่อชนแนวต้านสุดท้าย แถว ๆ 26 USD

        ผมติดตามการฟื้นตัวของราคาหุ้น Facebook หลังจากทะลุและยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันได้ พบว่าขณะนี้ได้ทะลุช่องแนวโน้มขาขึ้นสีเขียวด่านแรกไปได้แล้ว แต่ก็มาจ่อติดด่านแนวต้านขาลงเส้นสีแดงบนสุด ที่ประมาณ 26 USD หากผ่านไปได้ด่านต่อไปจะเป็นเส้นเขียวบนสุดในภาพแถว ๆ 31 USD ครับ




Short URL = http://goo.gl/W9cnE

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ + มูลค่าปัจจุบันของ [ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลรับระหว่างถือหุ้น 10 ปี ]

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

ถึงยุค fiber to the home การมาของ CTH กระเทือน JAS มั๊ย ?

     การประกาศผลผู้ประมูลได้สิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ พลิกล็อกถล่มเมื่อกลุ่ม CTH โดยการสนับสนุนของวิชัย  ทองแตง และทายาทไทยรัฐ ได้สิทธิ์ดังกล่าวแต่ผู้เดียวถึงสามปี ผลสะเทือนไม่ได้เกิดกับ TRUE และ GRAMMY เท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึง JAS และ SYMC ด้วย กระทบอย่างไรมาดูกันครับ  ผมอ่านบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้จาก ASP สรุปสิ่งที่เกิดขึ้นดังนี้

  • CTH ให้บริการเคเบิลทีวีแก่สมาชิก สามล้านห้าแสนราย
  • ได้สิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาล ในช่วง ก.ค. 2013 - พ.ค. 2016
  • จะใช้เงินสองหมื่นล้าน (รวมค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอล) เพื่ออัพเกรดระบบเคเบิลทีวีเดิมที่เป็นแอนาลอก เป็นดิจิตอล ในช่วงสามปีข้างหน้า โดยใช้เทคโนโลยี FTTH หรือ Fiber To The Home พร้อมขยายฐานลูกค้าเป็น สิบล้านราย
  • โครงข่ายข้อมูลเคเบิลทีวีแบบดิจิตอล FTTH จะมาพร้อมกับอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gbps (หรือ 1024 Mbps) เร็วกว่าที่แข่งขันกันให้บริการกันอยู่ในขณะนี้ที่ 10 Mbps ประมาณร้อยเท่า 
  • โครงข่ายข้อมูลของ CTH ในปัจจุบัน อาศัยการเช่าจาก SYMC และ UIH จึงคาดหมายกันว่าการอัพเกรดโครงข่ายน่าจะใช้บริการทั้งสองบริษัทเดิม เป็นเหตุให้ราคาหุ้น SYMC พุ่งหลังข่าวออกมา และคาดกันว่า CTH จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญเรื่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงกับ JAS เป็นเหตุให้ราคาหุ้น JAS ร่วงหลังมีข่าวออกมา
นั่นคือข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ ผมอ่านข่าวนี้แล้วให้หวนระลึกถึงคุณทักษิณที่เคยเกี่ยงโยงกันกับคุณวิชัย  ทองแตงในฐานะลูกความในคดีซุกหุ้น จากนั้นผมก็นึกถึงการโฟนอินเมื่อปีสองปีก่อนเรื่องอยากทำทีวีร้อยช่อง ต่อไปถึงเรื่องที่เคยซื้อสโมสรแมนซิตี้ สามเรื่องนี้มันมาพัวพันกับเรื่อง CTH ในคราวนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่ JAS จะเสียตลาดอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้กับ CTH นั้นผมมองว่าไม่สมเหตุสมผล เนื่องจาก ผู้ก่อตั้ง JAS ก็เคยเป็นรัฐมนตรีสมัยไทยรักไทย นอกจากนี้ การขยายโครงข่ายไปยังฐานลูกค้า 10 ล้านรายทั่วประเทศภายในสามปีนั้นจัดว่าเป็นงานที่ใหญ่มาก ลำพัง SYMC และ UIH ไม่น่าเอาอยู่ น่าจะต้องใช้บริการขยายโครงข่ายจาก JAS และ ILINK เพิ่มเติมอีกด้วยซ้ำไป นอกจากนี้ ตลาดก็ใช่ว่าจะทับซ้อนกันเสียทีเดียว เนื่องจาก อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านใยแก้วนำแสงส่งตรงถึงบ้าน (มาในสายเดียวกันกับเคเบิลทีวี) นั้นแพงกว่าค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับที่มากับสายโทรศัพท์ทองแดงแบบเก่าบนเทคโนโลยี ADSL ดังนั้น ADSL ของ JAS จึงเหมาะกับตลาดรากหญ้าที่กำลังขยายตัวแบบระเบิดเถิดเทิงจากการแจกแท็บเล็ต มากกว่าแบบใยแก้วนำแสงของ SYMC แต่ถ้า CTH จะจ้างให้ JAS ช่วยขยายโครงข่ายใยแก้วนำแสงอีกแรง ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ดังนั้นผมมองว่า การมาของ CTH และ Fiber To The Home นอกจากจะไม่เป็นโทษต่อ JAS แล้วยังน่าจะเป็นคุณด้วยซ้ำไปครับ นี่ยังไม่รวมการขยายโครงข่ายใยแก้วนำแสงสำหรับงาน 3G ของยักษ์มือถือ 3 ค่ายที่ กสทช. ต้องการให้เร่งมือขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยเร็วที่สุดอีกต่างหาก มองในมุมไหนก็ win win กันหมดนี่ครับ เพื่อนนักลงทุนท่านใดเห็นต่างแชร์ด่วนครับ

Short URL = http://goo.gl/fxRsJ

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)


ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"


 facebook.com/truestockvalue

 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น" 

Tuesday, November 27, 2012

SET สุดสายป่าน อีกแระ


     ในระยะนี้ ดัชนี SET ได้ตามไปวิ่งชนเส้นทางเทคนิคที่เป็นเส้นแนวรับแนวต้านสุดท้าย แบบ "สุดสายป่าน" หรือ "Run out of steam" คือ ถ้าหลุดก็หายนะ แต่ก็แคล้วคลาดมาโดยตลอด หลังจากที่เอาหลังพิงฝาเส้นสายป่าน สีแดงยาวเส้นล่างแล้ว ดัชนี SET ได้ฟื้นตัวขึ้นไปจนชนกับเส้น Supply line แดงสั้นเส้นบน เป็นการวิ่งสุดสายป่านด้านดี และปิดตัวลงที่สุดเส้นสายป่านพอดิบพอดี ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่า เขาลากดัชนีไปวางไว้ที่สุดสายป่านบริเวณต่าง ๆ ในกราฟได้จริง ๆ ทำให้กราฟอยู่ในสภาพ "สวยสั่งได้" ดัชนี SET ในจังหวะนี้ ถ้าหลุดเส้นแดงยาวเส้นล่าง ก็ลงยาว แต่ถ้าฝ่าเส้นสายป่านแดงสั้นเส้นบนไปได้ ก็ขึ้นยาวเช่นเดียวกัน วันพุธที่ 28 พ.ย. 2011 ได้รู้กันครับว่าจะยาวไปทางไหน ในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุม กนง.จะมีมติคงหรือลดดอกเบี้ยนโยบาย ก็สำคัญกับสภาวะสุดสายป่านทั้งข้างบนและข้างล่างแบบที่เป็นอยู่นี้มากทีเดียวครับ   



Short URL = http://goo.gl/jilN9

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)


ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"


 facebook.com/truestockvalue

 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"


สูตรการหามูลค่าที่แท้จริงมายังไง ?

     มีเพื่อนนักลงทุนถามผมมาว่า สูตรการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นที่ผมวางไว้ในตอนท้ายของโพสต์ทุกโพสต์มีที่มายังไง ผมอธิบายดังนี้ครับ

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

สูตรข้างบน มีองค์ประกอบดังนี้ 

1. เงินสดคือ เงินสดหรือสินทรัพย์ที่แปลงเป็นเงินสดได้รวดเร็ว หาได้จากตอนท้ายของงบกระแสเงินสด
2. กำไรของผู้ถือหุ้นในอนาคต รายละเอียดมีกล่าวใน "SHAREHOLDER LETTERS" ปี 1986 ซึ่งวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขียนถึงผู้ถือหุ้น [ http://www.berkshirehathaway.com/letters/1986.html ] 
3. เงินปันผลรับในอนาคต
4. เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมดออกไป มีกล่าวในหนังสือ นักลงทุนดันโด ของโมห์นิศ  ปะไพร (Mohnish  Pabrai) ซึ่งเป็นนักลงทุนที่นิยมชมชอบ วอร์เรนบัฟเฟตต์ ถึงขนาดยอมจ่าย หกแสนห้าหมื่นดอลล่าร์เพื่อให้ได้ทานมื้อเที่ยงกับบัฟเฟตต์สักครั้ง (รายได้มอบการกุศล)

ในสี่องค์ประกอบดังกล่าว ข้อ 2, 3 และ 4 จะได้มาจากการคาดการณ์อนาคตที่ยังมาไม่ถึง แล้วแต่สมมุติฐานที่นักลงทุนแต่ละคนใช้ โดยมีหลักว่า 

  • เราซื้อกิจการมา
  • เป็นเจ้าของกิจการไปสักระยะหนึ่ง
  • ขายกิจการออกไป

ดังนั้นสิ่งที่เราจะได้จากการเข้าลงทุนก็คือ

  • สิ่งที่ได้มาในระหว่างเป็นเจ้าของกิจการ และ
  • เงินรับเมื่อขายกิจการออกไป

 ถ้าเป็นบัฟเฟตต์คำว่าสักระยะหนึ่งมักจะหมายถึงตลอดไป เพราะเขาซื้อกิจการแล้วไม่ชอบขาย ยกเว้นมันทำกำไรในปริมาณมหาศาลในเวลาที่รวดเร็วเกินไปเขาจึงจะขายออก ถ้าเป็นคนอื่นก็ตามใจชอบ สำหรับโมห์นิศ  ปะไพร เขาใช้ค่า 10 ปี ส่วนผมใช้ตามโมห์นิศ ในระหว่างถือหุ้นอยู่ 10 ปี นั้น กิจการที่เลือกสรรมาดีแล้วจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก กำไรของผู้ถือหุ้นที่ทำได้ทุก ๆ ปี นอกจากนี้กิจการยังจ่ายเงินปันผลออกมาอย่างสม่ำเสมออีกด้วย เมื่อครบกำหนดลงทุน เราอยากขายกิจการให้คนอื่น ก็ต้องมากำหนดว่าจะขายที่ราคาเท่าไหร่ โดยทั่วไปนิยมซื้อขายกิจการกันที่ราคา 10-15 เท่าของกำไรของผู้ถือหุ้นที่กิจการทำได้ในปีที่ซื้อขายกิจการกันนั้นเอง (ผู้ขายอยากได้ราคาสูง ผู้ซื้ออยากได้ราคาต่ำ จึงมักจบลงในย่านดังกล่าว) เงินสามก้อนที่่ว่านี้ มันเป็นเงินในอนาคตซึ่งเกิดขึ้น ณ เวลาต่าง ๆ กัน ซึ่งเงินในอนาคตจะมีมูลค่าต่ำกว่าเงินในปัจจุบันนี้ เช่น เงิน 100 บาทวันนี้ จะมีมูลค่าเพียง 97 บาทในหนึ่งปีข้างหน้า ถ้าเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ดังนั้นจึงต้องแปลงเงินทั้งสามก้อนนั้นให้เป็นมูลค่าในวันนี้ก่อน ค่อยเอามารวมกัน สำหรับเงินสดในข้อ 1 เป็นเงินสดจากงบการเงินล่าสุด จึงมีมูลค่าเป็นปัจจุบันอยู่แล้ว รวมสี่ส่วนเข้าด้วยกันจะเป็นมูลค่าของกิจการ ณ วันนี้
     เนื่องจากเงินที่เกิดในอนาคตยิ่งห่างไกลจากปัจจุบันมากเท่าไหร่ จะแปลงกลับมาเป็นเงินในปัจจุบันได้มูลค่าน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้น เงิน 100 บาท ใน 10 ปีข้างหน้า จึงมีมูลค่าแทบไม่แตกต่างจากเงิน 100 บาท ใน 20 ปีข้างหน้านัก การสมมุติว่า ถือหุ้นลงทุน 10 ปี จึงเพียงพอที่จะใช้แทนการถือหุ้นตลอดไปแบบที่บัฟเฟตต์ชอบทำ (ไม่เชื่อลองคำนวณดูได้ครับ) เพื่อไม่ให้เสียเวลามากเกินไป การคำนวณในทางปฏิบัติจึงสมมุติว่าจะลงทุนในกิจการนั้น 10 ปี และในปีที่สิบนั้นจะขายกิจการทั้งหมดออกไป ณ ราคา 10-15 เท่าของกำไรของผู้ถือหุ้นของปีที่ 10  เมื่อศึกษาอย่างรอบด้านจากหลายแหล่งข้อมูล มีจดหมายถึงผู้ถือหุ้นของบัฟเฟตต์และหนังสือนักลงทุนดันโดของโมห์นิศ ปะไพร เป็นเค้า ผมจึงประมวลสูตรการหามูลค่าที่แท้จริงได้ว่า

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ปัญหามีอยู่ว่า แล้วกำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลที่จะเกิดขึ้นในรอบสิบปีที่ลงทุนในกิจการจะคาดการณ์ได้ยังไง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคนครับ สำหรับบัฟเฟตต์ เขาคิดทุกอย่างในหัวสมองอัจฉริยะของเขา ส่วนโมห์นิศเขาใช้แนวลงทุนดันโดและเครื่องคิดเลข มีเขียนไว้ในหนังสือนักลงทุนดันโดว่า มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นเป็นสิ่งมีค่า เขาจะไม่บอกกันง่าย ๆ สำหรับผมดูจากแนวโน้มตัวเลขในงบการเงินแล้วคาดการณ์อนาคตด้วยหลักวิชาสถิติครับ การคาดการณ์กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลในอนาคตไม่ว่าจะคิดออกมาด้วยวิธีใด ย่อมไม่สามารถหาได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นเพียงแนวทางให้รู้ว่าราคาหุ้นถูกหรือแพงมากน้อยอย่างไร เท่านั้น สิ่งสำคัญคือ การเข้าลงทุนในภาวะวิกฤติอันเป็นสภาวะชั่วคราวที่ราคาหุ้นถูกเป็นพิเศษ เมื่อเวลานั้นมาถึง มูลค่ากิจการที่เราพอทราบเลา ๆ ก่อนเกิดวิกฤติจะเป็นตัวบ่งชี้ความน่าสนใจหรือความปลอดภัยในการลงทุนเป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ ครับ

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)


ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"


 facebook.com/truestockvalue

 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"


Monday, November 26, 2012

ติดตามเงินลงทุนของต่างชาติ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2012


     หลังเสธ.อ้ายท่านได้แช่แข็งตัวเองไปแล้ว ความกังวลของนักลงทุนที่ยังคงคาใจอยู่ก็เห็นจะเป็นเรื่องในสภาที่กำลังจะจบลง ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงสงวนท่าที ไม่ไล่ซื้อ พิจารณาในมุมมองทางเทคนิคผมเข้าใจว่าเขารอให้เกิด breakout ก่อน นั่นคือรอให้ SET ปิดทะลุออกจากแนว เส้นสีแดงเล็กเส้นบนที่ผมชี้ว่า Supply line ก่อน ดังในรูปข้างล่าง จากกราฟอีกวันสองวันก็รู้แล้วครับว่าจะผ่าน supply line นี้ไปได้หรือไม่ ถ้าได้ก็น่าจะไปได้อีกพอสมควร ส่วนจะไปที่ใด ลองเอาดินสอลากต่อกันเองตามใจชอบครับ ชนเส้นแดงใหญ่เส้นบนตรงไหน ก็ตรงนั้นแหละครับ ตาใครตามัน ยิ่งถ่วงให้ออกข้างได้นานเท่าใด ยิ่งไต่ขึ้นไปได้สูงขึ้นโดยไม่ชนเพดาน ครับ



Short URL = http://goo.gl/2i8JX

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)


ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"


 facebook.com/truestockvalue

 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"