CK ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับเหมาก่อสร้างเท่านั้น แต่ธุรกิจที่แท้จริงคือ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จะเติบโตไปกับเศรษฐกิจของประเทศได้แก่ ทางด่วน (BECL) รถไฟฟ้า (BMCL) น้ำประปา (TTW) ผลิตไฟฟ้า (CK power) นี่เป็นภาพใหญ่ที่ผมเปรียบเทียบว่า "ฟ้าเปิด" นั่นเองครับ เมื่อชำแหละงบการเงินของ CK จนถึงไตรมาส 2012Q2 พบว่า กำไรของผู้ถือหุ้นสะสมยังอยู่ในช่วงขาลงและยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว อย่างไรก็ตามการวางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีเป็นการรับประกันรายได้ระยะ 8 ปี ของ CK ว่าจะต้องเพิ่มขึ้นชนิด "take a giant leap" ดังนั้นแม้ว่าจะยังไม่สามารถหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น CK ได้ในขณะนี้ ก็ยังถือได้ว่า การลงทุนในบรรยากาศเช่นนี้มีความปลอดภัยกว่าในบรรยากาศฟองสบู่มากครับ
Entry strategy
ปลายเดือนสิงหาคม 2012 สัญญาณ MACD(12,26) ในกราฟรายวันของ CK เปลี่ยนผ่านจากแดนลบเข้าสู่แดนบวก ตามด้วยกลางเดือนกันยายน 2012 ราคาหุ้น CK ทะลุออกจากกรอบแนวต้านรูปผืนธงสามเหลี่ยม (ป้ายแดง Breakout) พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมาสนับสนุนอย่างชัดเจน (วงรีสีเขียว) หลังจากทะลุกรอบแนวต้านออกมาได้แล้ว ราคาหุ้น CK ได้แกว่งตัวขึ้นไปตามช่องแนวโน้มขาขึ้นสีเขียวดังภาพข้างล่าง ในภาพจะมองเห็นแนวต้านใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าคือ จุดสูงสุดเดิม 11.40 บาท เมื่อเดือนตุลาคม 2010 เมื่อพิจารณาความเสี่ยงการลงทุนโดยใช้แนวต้านดังกล่าวเป็นเป้าหมายการปรับตัวขึ้นของราคา และใช้ราคาสูงสุดในระยะปัจจุบันที่ราคา 9.55 บาท เป็นจุดเข้าลงทุน คร่าว ๆ จะได้ผลตอบแทน 11.40/9.55 = 19% ถ้าตั้งตัดขาดทุนไว้ 10% ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง จะอยู่ที่ 1.9 เท่า แต่ถ้าใช้เป้าหมายในระยะยาวจากรูปกราฟ cup with a handle ดู [ ฟ้าเริ่มเปิดที่แล้ว CK ] ซึ่งชี้ไปที่ 20 บาท จะได้ผลตอบแทน 20.00/9.55= 109% หรือผลตอบแทนต่อความเสี่ยงจะอยู่ที่ 10.9 เท่าครับ
Exit strategy
จากภาพข้างบน ถ้าสังเกตบริเวณที่มีการ breakout จะเห็นรูปกราฟ cup with a handle ขนาดย่อม ๆ โดยที่รูปกราฟนี้ได้ฟอร์มตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อขยายกราฟบริเวณนี้เพื่อดูรายละเอียดจะเห็นรูปถ้วยกาแฟมีหูจับอย่างชัดเจนดังภาพข้างล่าง ในระยะปัจจุบัน ราคาหุ้น CK ได้แกว่งขึ้นลงย้ำฐานบริเวณมือจับของถ้วยกาแฟ เตรียมพร้อมจะไต่ระดับขึ้นไป ทำให้ระยะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะเข้าลงทุน หากบรรยากาศของตลาดโดยรวมเอื้อให้ทำเช่นนั้น ผมวาดรูปถ้วยกาแฟมีหูด้วยเส้นร่างสีน้ำเงิน ถ้วยกาแฟนี้มีก้นถ้วยอยู่ที่ 6.70 บาท และปากถ้วยอยู่ที่ 8.50 บาท คิดเป็นความสูงของถ้วย 1.80 บาท ดังนั้นรูปกราฟนี้จึงมีเป้าหมายชี้ไปที่ 8.50 + 1.80 = 10.30 บาท
สมมุติว่าเราเข้าลงทุนไปแล้ว และในเบื้องต้นรูปกราฟ cup with a handle ชี้เป้าไปที่ 10.30 บาท คราวนี้ก็จะต้องกำหนดกฎการขายให้กับการลงทุนใน CK โดยมีวัตถุประสงค์ในการปล่อยให้เงินทำงาน ไปพร้อม ๆ กับการปกป้องรักษามูลค่าพอร์ตไม่ให้เสียหายมากเกินไป จากภาพข้างล่าง ถ้าเริ่มนับจากจุดต่ำสุดของการปรับฐานรอบล่าสุดที่ 6.70 บาท ผมสร้างช่องแนวโน้มราคาขาขึ้นได้ดังช่องสีเขียว มีแกนกลางเป็นเส้นสีชมพู ผมตั้งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่รายวัน สีเหลือง โดยเริ่มจาก 75 วัน แล้วค่อย ๆ ปรับลดจำนวนวันลงจนกระทั่งเส้นค่าเฉลี่ยแตะระดับต่ำสุดของกราฟราคาหุ้นที่กำลังไต่ระดับไปตามแนวเส้นสีชมพู ได้เป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 40 วัน หรือ SMA40D ผมจะเริ่มใช้ SMA40D เป็นเส้นการตัดขายหุ้นไปก่อนในช่วงเริ่มแรกนี้ แล้วค่อย ๆ ปรับแต่งให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นตามเวลาที่ราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นไป ในปัจจุบัน (9 พ.ย. 2012) ค่า SMA40D อยู่ที่ 8.71 บาท หมายความว่าการแกว่งตัวของราคาหุ้นไม่ควรทำให้ราคาลงมาต่ำกว่า 8.71 บาท ระดับนี้ต่ำกว่าราคาปิด ณ วันที่ 9 พ.ย. 2012 ที่ 9.05 บาท อยู่ 1 - (8.71/9.05) = 3.76% ถ้าหากเส้น SMA40D เป็นเกณฑ์การขายที่ดีพอ ราคาหุ้นที่กำลังแกว่งตัวลงในขณะนี้ก็ไม่ควรลงไปต่ำกว่า 8.71 บาทนั่นเองครับ
URL สั้นของหน้านี้คือ http://goo.gl/tmKoe
อ่านบทความเกี่ยวกับ CK ทั้งหมดได้ [ ที่นี่ ]
===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด
มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)
ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"
facebook.com/truestockvalue
twitter.com/thstockinvest
gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"