จากจุดสูงสุดในกราฟทางซ้ายมือ ดัชนี่ปรับลงแล้วเด้งขึ้นไปใหม่แล้วไหลลงต่อ ตรงนี้ลากเส้นตรงเชื่อมต่อจุดสูงสุดเป็นเส้นชมพูที่ 1 (ล่างสุด) เส้นนี้กลายเป็นแนวต้านของดัชนี ซึ่งต่อมาดัชนีพยายามฝ่าเส้นชมพูที่ 1 แต่ก็ไถลลงไปตามเส้นนั้น ต้นปี 1996 ดัชนีพยายามขึ้นมาเป็นครั้งที่สาม แต่ไม่สามารถทำนิวไฮได้ ยอดที่สามนี้เชื่อมกับจุดสูงสุดตลอดกาลได้เป็นเส้นชมพูที่ 2 เมื่อทำนิวไฮไม่ได้ ดัชนีก็ร่วงลงมาหาเส้นชมพูที่ 1 แต่เอาไม่อยู่หลุดเส้นชมพูที่ 1 ลงไป ณ ปลายปี 1996 แถว ๆ 1000 จุด เป็นการยืนยันหายนะวิกฤติต้มยำกุ้ง ดัชนีดิ่งยาวไปถึง 200 จุด ตรงนี้ถ้าเพื่อนนักลงทุนเชื่อแฟนคนแรก ก็คงไม่ปล่อยตามน้ำจาก 1000 จุด ลงไปถึง 200 จุดเพราะนั่นคือการหมดตัวนั่นเอง ไม่เชื่อแฟนก็งี้แหละนะ
ต่อมาปลายปี 1999 ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาชนเส้นชมพูที่ 1 แถว ๆ 400 จุด และสามารถผ่านขึ้นไปได้ แต่จะเห็นว่ายังมีอีกด่าน คือแฟนคนที่ 2 ซึ่งอยู่สูงขึ้นไป ดัชนีไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแฟนคนที่ 2 จนเวลาผ่านไปอีก 4 ปี ปลายปี 2002 ดัชนีออกมายืนเหนือเส้นชมพูที่สองได้อย่างมั่นคง เพราะสามารถอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 เดือน หรือ SMA30M สีเหลืองได้ด้วย ในตอนนั้น ถ้ามองขึ้นไปด้านบนจะยังไม่เห็นแฟนคนที่ 3 เพราะยังไม่เกิด ดังนั้นจึงเป็นการยืนยันการสิ้นสุดวิกฤติต้มยำกุ้งอย่างเป็นทางการ แถว ๆ 400 จุด ณ ต้นปี 2003 และในปีนั้น ดัชนีก็พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนไปทำจุดสูงสุดไว้ที่ 800 จุด ณ ต้นปี 2004 ตรงนี้เองที่เราวาดเส้นสีชมพูที่ 3 ได้ เป็นการเกิดขึ้นของแฟนคนที่ 3
ดัชนี SET ใช้เวลาอีกสองปีจึงจะสามารถพ้นจากแฟนคนที่สามออกมาได้อย่างชัดเจน ปลายปี 2006 เงินบาทแข็งค่ามาก หม่อมอุ๋ยให้ยาแรงทำให้ดัชนีร่วงแรงลงมาหยุดอยู่ที่แฟนคนที่ 3 แต่ยาแรงของหม่อมอุ๋ยมันแรงไปจึงต้องยกเลิกในไม่กี่วันถัดมา จากนั้นดัชนีจึงพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้งทำให้เราได้แฟนคนที่ 4 แถว ๆ 900 จุด ณ ปลายปี 2007 ต้นรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ในปี 2008 วิกฤติซับไพรม์ระเบิดขึ้น ดัชนีหลุดเส้น SMA30M แล้วดิ่งลงไปหาแฟนคนเดิมคือ เส้นชมพูที่ 3 แถว ๆ 400 จุด เมื่อปลายปี 2008 ปรากฎว่า แฟนคนที่ 3 รับเอาไว้ได้ การมีแฟนหลายคนก็ดีอย่างนี้แหละครับ
เพื่อนนักลงทุนคงเห็นความสำคัญของแฟนคนที่ 3 แล้วนะครับ แต่จริง ๆ แล้วแฟนคนที่ 2 และคนที่ 1 ก็มีส่วนช่วยด้วย เพราะทั้งสองคนได้ช่วยเพิ่มความสำคัญให้ระดับดัชนี 400 จุดมาแล้วในอดีต กล่าวคือ หลังจุดร้ายแรงสุดระหว่างวิกฤติต้มยำกุ้ง ดัชนีขึ้นมาชนแฟนคนที่ 1 แถว ๆ 400 จุด และหลังจากนั้นจึงออกข้างมาชนแฟนคนที่สองแถว ๆ 400 จุดเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าแฟนคนไหน ก็มีส่วนช่วยเราได้ทั้งสิ้น ใครที่เชื่่อแฟนคนที่สาม ก็คงจะไม่กลัวมากจนเกินไปที่จะเริ่มกล้าเข้าเก็บหุ้นในช่วงต้นปี 2009 ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงขนหัวลุกกันอยู่
หลังจากแฟนคนที่ 3 ได้ช่วยให้เรามองเห็นจุดต่ำสุดของวิกฤติซับไพรม์แล้ว ดัชนีได้พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วพร้อมกันการเกิดขึ้นของเศรษฐีใหม่ นักลงทุน VI หนุ่มสาวหลายราย และดัชนีสามารถผ่านเส้นชมพูที่ 4 ขึ้นไปได้แถว ๆ 800 จุด จากตรงนี้ไป มองขึ้นไปด้านบนในตอนนั้น แฟนคนถัดไปยังไม่เกิด ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า การผ่านแฟนคนที่ 4 ขึ้นมาได้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวของดัชนีต่อเนื่องไปอีกจนกว่าจะพบแฟนคนใหม่ ซึ่งดัชนีก็ได้เพิ่มขี้นเรื่อย ๆ ตลอด 1 ปีต่อมา และได้สร้างจุดสูงสุดอีกครั้งแถว 1150 จุดเมื่อกลางปี 2011 เกิดเป็นเส้นชมพูที่ 5 แฟนคนนี้เกิดมาพร้อมกับมหาอุทกภัย ดังนั้นดัชนีจึงดิ่งลงไป จนชนกับเส้น SMA30M สีเหลือง ก่อนจะฟื้นตัวอีกครั้งและผ่านแฟนคนที่ 5 ขึ้นไปได้ในช่วงต้นปี 2012
หลังจากนั้นอีกเล็กน้อยก็เกิดเส้นชมพูที่ 6 แถว ๆ เหนือ 1200 จุดเล็กน้อย การปรับลงของดัชนีช่วงนั้นได้ใช้แฟนคนที่ 5 ซึ่งอยู่ต่ำลงไปเพียงเล็กน้อยเป็นจุดเด้งกลับ สองสามเดือนต่อมา ดัชนีก็ผ่านแฟนคนที่ 6 ขึ้นมาได้ และได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาถึง 1450 จุดในปัจจุบัน ขณะนี้แฟนคนที่ 7 ยังไม่เกิด และไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ แต่มีความเป็นไปได้มากว่า มีอยู่คนหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นมาแถว ๆ 1750 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลต้นกำเนิดของแฟนทั้ง 6 คนที่ผ่านมานั่นเองครับ เมื่อใดที่ดัชนีขึ้นไปถึงระดับนั้นได้ มองในภาพข้างบนจะเห็นว่า ดัชนีจะเกิดรูปกราฟเป็นถ้วยแก้วที่มีระดับปากถ้วยอยู่ที่แถว ๆ 1750 จุด ถ้าเกิดแบบนั้นแล้ว ดัชนีมีทางเลือกว่า จะผ่านระดับปากถ้วยขึ้นไปเลยเพื่อเสาะหาแฟนใหม่ที่จะเกิดขึ้นเหนือขึ้นไป หรืออาจจะย้อยลงมาสร้างหูจับของถ้วยแก้ว โดยกลับไปหาแฟนเก่าคนใดคนหนึ่งก่อนค่อยย้อนกลับขึ้นไปใหม่ จะเป็นแบบไหนต้องตามดูต่อไป ครับ จากที่ผมเล่ามายืดยาว เพื่อนนักลงทุนคงได้เห็นแนวทางว่า ท่านจะ "ใช้แฟนให้ช่วยดูหุ้น" ได้อย่างไรบ้างแล้วนะครับ
==============================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด
ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"