Wednesday, October 31, 2012

ติดตามเงินลงทุนของต่างชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2012

     สิ้นวันที่ 31 ตุลาคม 2012 ผมกรอกปริมาณการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศในฐานข้อมูลแล้ววาดกราฟเทียบกับดัชนี SET ได้ดังภาพข้างล่าง ในภาพนี้ผมเน้นดูปริมาณเงินลงทุนของต่างชาติ เส้นกราฟสีน้ำเงิน โดยสร้างช่องแนวโน้มขาขึ้นสีน้ำเงินเป็นแบบช่องแนวโน้มแคบซ้อนอยู่ในช่องแนวโน้มกว้าง จากภาพจะเห็นว่า การขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติได้ดำเนินมาจนเส้นกราฟสีน้ำเงินเกือบจะชนเส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มแคบแล้ว ต้องติดตามต่อไปว่าต่างชาติจะหยุดขายที่แนวเส้นนี้หรือไม่ หรือจะขายต่อไปถึงเส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มกว้างที่อยู่ต่ำลงไปอีกนิดหน่อย



     สำหรับระดับดัชนี SET ผมไม่สร้างช่องแนวโน้มในภาพนี้เพราะจะทำให้สับสน ในวันนี้ดัชนี SET พยายามขึ้นไปทดสอบระดับ 1,300 จุดแต่ไม่สามารถผ่านได้  เมื่อดู [ แนวต้านตาม Fibonacci ] ดัชนี SET ตอนนี้อยู่ระหว่างเป้าหมาย Fibonacci 1,282.78 # จุด และ 1,304.47 ## จุด ครับ ทีนี้ลองมาดูแนวโน้มในอีกมุมมองหนึ่งดังภาพข้างล่าง ในมุมมองนี้ผมลากเส้นตรงสีน้ำเงินเชื่อมต่อจุดสูงสุดต่าง ๆ ในกราฟ เส้นสีน้ำเงินนี้เป็นแนวต้านระยะยาวที่ดัชนี SET ยังไม่เคยผ่านได้ การทดสอบเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่บริเวณ 1,314 จุด สองครั้งล่าสุดก็ไม่สามารถผ่านเส้นนี้ขึ้นไปได้ จากการเด้งขึ้นแรงของดัชนี้สองวันมานี้ มีโอกาสที่จะไปทดสอบเส้นสีน้ำเงินอีกครั้งบริเวณลูกศรสีน้ำเงิน หากผ่านได้ก็เป็นสัญญาณที่ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ดัชนีจะลงมาย้ำฐานที่จุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,250 จุด ตรงลูกศรแดง ก็เป็นไปได้มากเช่นกัน หากมองภาพใหญ่ภายในกรอบเส้นตรงสีน้ำเงิน กับเส้นขอบล่างสุดของช่องแนวโน้มสีเขียวจะพบว่า รูปแบบกราฟคล้าย ๆ จะเป็น rising wedge ซึ่งหากดัชนีหลุดจากจุดที่ลูกศรแดงชี้ ก็จะเป็นการกลับแนวโน้มใหญ่ให้เป็นขาลงได้ เมื่อมองช่องแนวโน้มขาขึ้นสีเขียว จะเห็นว่าการเด้งกลับของดัชนีเมื่อสองวันก่อนเกิดขึ้นที่เส้นสีเขียวที่อยู่ระหว่างปลายลูกศรแดงและปลายลูกศรน้ำเงิน และการเด้งระยะสั้นแบบนี้ได้เคยเกิดขึ้นบนเส้นเดียวกันนี้มาหลายครั้ง ทำให้เป็นไปได้เช่นเดียวกันที่ดัชนีจะไม่ลงไปลึกถึง 1,250 จุด สรุปว่า ระดับดัชนี้่ในปัจจุบันเป็นจุดที่มีโอกาสเกิดเหตุการณ์ในรูปแบบหลากหลาย ทั้งด้านดีและด้านร้าย ร้ายสุด ๆ คือหลุดปลายลูกศรแดงลงไป ดีอย่างมาก คือทะลุปลายลูกศรน้ำเงินขึ้นไป ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือรอดูไปก่อนดีกว่า จะออกมุมแดง หรือออกมุมน้ำเงินอีกนิดเดียวก็รู้แล้วครับ



URL = http://goo.gl/PYF0Q

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

Tuesday, October 30, 2012

ติดตามเงินลงทุนของต่างชาติ วันที่ 30 ตุลาคม 2012


     สิ้นวันที่ 30 ตุลาคม 2012 ผมกรอกปริมาณการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศในฐานข้อมูลแล้ววาดกราฟเทียบกับดัชนี SET ได้ดังภาพข้างล่างครับ



     ผมสร้างช่องแนวโน้มสีแดงของระดับดัชนี SET ในภาพจะเห็นว่าวันนี้ดัชนีได้เด้งกลับขึ้นไปอยู่ที่เส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มสีแดงพอดี ถือว่ายังไม่พ้นอันตรายนะครับ เมื่อดู [ แนวต้านตาม Fibonacci ] ดัชนี SET กลับไปอยู่เหนือเป้าหมาย Fibonacci 1,282.78 # จุด ส่วนปริมาณหุ้นไทยในมือต่างชาติ (เส้นกราฟสีน้ำเงิน) เห็นได้ชัดว่าได้หลุดออกจากช่องแนวโน้มสีน้ำเงินลงข้างล่าง และลงลึกกว่าเมื่อวานต่อไปอีกครับ 

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

Monday, October 29, 2012

ตาราง spread ราคาของหุ้นไทย

     ในช่วงการปรับฐานของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าเพื่อนนักลงทุนคงมีการปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นกันไม่มากก็น้อย ผมเลยเอาตาราง สเปรดราคาหุ้นไทย (ระดับขั้นการเพิ่มขึ้น/ลดลงของราคาหุ้น) ตามกฎของกลต.มาแปะไว้ตรงนี้ครับ ต้องการเรียกดูตารางนี้เมื่อใด ก็ค้นหาคำว่า spread ในเว็บ ลงทุนหุ้นไทย ได้เลยครับ



Short URL = http://bit.ly/1xIvygq

 Know-how Collections

ช่องแนวโน้มขาขึ้นของหุ้น JAS และเป้าหมายการพักปรับฐานตามทฤษฎี Fibonacci retracement

     ในวันที่ 25 ต.ค. 2012 ราคาหุ้น JAS ได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 4.98 บาท จากนั้นจึงได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องจนมาปิดที่ 4.48 บาท ในวันนี้ (29 ต.ค. 2012) พิจารณาบรรยากาศของตลาดโดยรวมแล้วน่าจะถึงเวลาพักปรับฐาน ผมเลยเอากราฟ JAS มาลองดูว่า จะมีอะไรอัพเดตบ้าง มองดูกราฟวันนี้ผมเห็นช่องแนวโน้มใหม่ที่ยืนยันความจำเป็นในการพักปรับฐาน ผมวาดเส้นตรงสีน้ำเงินเชื่อมต่อจุดต่ำสุดในแนวเฉียงดังภาพข้างล่าง จากนั้นลากเส้นขนานอีกเส้นหนึ่งไปวางผ่านจุดสูงสุด 4.98 บาท พบว่าเส้นตรงเส้นที่สองนี้ ผ่านจุดสูงสุดของกราฟในช่วงต้นเดือนกันยายน ปี 2011 ด้วย นี่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความ "ใช้ได้" ของช่องแนวโน้มสีน้ำเงินที่ผมวาดขึ้น จากนั้นผมแบ่งช่องแนวโน้มนี้ออกเป็นสามส่วนเท่า ๆ กันด้วยเส้นประสองเส้น พร้อมทั้งวาดเส้นสีชมพูแนวนอนให้ลากผ่านจุดสูงสุดเดิมของราคาหุ้น JAS ที่ระดับ 3.92 บาท เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2011 จากภาพจะเห็นว่า ราคาปิดวันนี้ได้ทะลุผ่านเส้นประเส้นบนลงมาแล้ว ดังนั้นเป้าหมายใกล้สุดของการปรับฐานรอบนี้จึงอยู่ที่ เส้นประเส้นล่างแถว ๆ 4.10 บาท ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิม แต่หากสถานการณ์รวมของตลาดเลวร้ายกว่านั้นมาก ก็มีโอกาสลงไปที่เส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มสีน้ำเงิน แถว ๆ 3.60 บาท ซึ่งมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 75 วัน สีเหลืองรออยู่บริเวณนั้นแล้ว 



นอกจากนี้ผมยังใช้ช่องแนวโน้มสีน้ำเงินที่สร้างได้ มาหาเป้าหมายการพักฐานจากจุดสูงสุด 4.98 บาท ว่าน่าจะลงมาที่ระดับใดได้บ้าง โดยมองดูว่า เส้นกราฟราคาหุ้น JAS ลงมาแตะเส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มสีน้ำเงินครั้งล่าสุดที่ราคา 2.72 บาท ในวันที่ 7 มิ.ย. 2012 แล้วไต่ระดับขึ้นไปแตะขอบบนของช่องแนวโน้มสีน้ำเงินที่ราคา 4.98 บาท ในวันที่ 25 ต.ค. 2012 คำนวณหาเป้าหมายการพักปรับฐานได้ดังนี้ 


JAS แรลลี่จาก 2.72 บาท ไป 4.98 บาท แล้วพักปรับฐาน

คำถามคือ จากจุดสูงสุดที่ระดับ 4.98 บาท เป้าหมายการปรับพักฐานของหุ้น JAS จะลงไปอยู่ที่ระดับใดบ้าง ?

หาคำตอบได้ดังนี้ครับ

Fibonacci Ratio ได้แก่

-1.000 , -0.886 , -0.618 , -0.500 , -0.382 , -0.236 , 0.000 , 0.236 , 0.382 , 0.500 , 0.618 , 0.786 , 0.886 , 1.000 , 1.127 , 1.272 , 1.382 , 1.500 , 1.618 , 2.000 , 2.618

Fibonacci Retracement Correction from an up trend

Retracement = High price - Low price = 4.98 - 2.72 = 2.26

Targets = Low price - [Retracement x Fibonacci Ratio] 
= 2.72 - ( 2.26 x -2.618 ) = 8.64
= 2.72 - ( 2.26 x -2.000 ) = 7.24
= 2.72 - ( 2.26 x -1.618 ) = 6.38
= 2.72 - ( 2.26 x -1.500 ) = 6.11
= 2.72 - ( 2.26 x -1.382 ) = 5.84
= 2.72 - ( 2.26 x -1.272 ) = 5.59
= 2.72 - ( 2.26 x -1.127 ) = 5.27
= 2.72 - ( 2.26 x -1.000 ) = 4.98
= 2.72 - ( 2.26 x -0.886 ) = 4.72 *
= 2.72 - ( 2.26 x -0.618 ) = 4.12 **
= 2.72 - ( 2.26 x -0.500 ) = 3.85
= 2.72 - ( 2.26 x -0.382 ) = 3.58
= 2.72 - ( 2.26 x -0.236 ) = 3.25
= 2.72 - ( 2.26 x 0.000 ) = 2.72


ราคาปิดของวันนี้ได้เลยผ่านเป้าหมาย 4.72 * บาท ลงมาแล้ว ดังนั้นเป้าหมายต่อไปคือ 4.12 ** บาท ใกล้เคียงกับระดับของเส้นประเส้นล่างในช่องแนวโน้มขาขึ้น 4.10 บาท ที่ได้กล่าวแล้วข้างต้นครับ

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

ติดตามเงินลงทุนของต่างชาติ วันที่ 29 ตุลาคม 2012

     สิ้นวันที่ 29 ตุลาคม 2012 ผมกรอกปริมาณการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศในฐานข้อมูลแล้ววาดกราฟเทียบกับดัชนี SET ได้ดังภาพข้างล่างครับ



     ผมสร้างช่องแนวโน้มสีแดงของระดับดัชนี SET ในภาพจะเห็นว่าดัชนีได้หลุดออกจากช่องแนวโน้มแล้วอย่างชัดเจน เมื่อดู [ แนวต้านตาม Fibonacci ] ดัชนี SET อยู่ระหว่างเป้าหมาย Fibonacci 1,247.72 ***** จุด และ 1,282.78 # จุด ส่วนปริมาณหุ้นไทยในมือต่างชาติ (เส้นกราฟสีน้ำเงิน) เห็นได้ชัดว่าได้หลุดออกจากช่องแนวโน้มสีน้ำเงินลงข้างล่างเช่นกัน เมื่อถอยออกมามองภาพรวมดังกราฟข้างล่าง เทียบเส้นกราฟปริมาณเงินลงทุนของต่างชาติสีน้ำเงินกับระดับสูงสุดเดิมซึ่งแทนด้วยเส้นแนวนอนสีแดง จะเห็นว่า เส้นกราฟสีน้ำเงินผ่านเส้นสีแดงเส้นบนลงมาแล้ว เป้าหมายคือเส้นสีแดงเส้นล่างครับ



===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

หาก SET ปรับลงไปแค่ high เดิม 1247 จุด แล้วฝรั่งกลับลำเข้าซื้อหุ้นไทย กราฟ SET จะเป็น Cup with a handle ชี้ไปที่ 1400 จุด


     หลังจากที่นักลงทุนได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไตร่ตรองดูความเคลื่อนไหวของดัชนี SET และเงินทุนต่างชาติพอสมควรแล้ว บัดนี้ภาพความเคลื่อนไหวค่อย ๆ แจ่มชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า SET ได้เข้าสู่การปรับฐานแล้ว ที่ยังไม่ชัดเท่าใดนักก็เหลือแต่ว่า จะปรับมากน้อยเพียงใด ในระยะสั้น ๆ นักวิเคราะห์จากค่ายต่าง ๆ พากันให้ระวังว่าแนวรับ 1270 จุดจะรับอยู่หรือไม่ แต่จากกราฟข้างล่าง ผมมองเห็นแต่ แนวเส้นสีชมพูซึ่งเป็นระดับ high เดิม ว่า SET น่าจะไปตรงนั้น และถ้าฝรั่งจะเริ่มเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างจริงจังโดยที่ดัชนียังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น [ ฝรั่งก็น่าจะเข้าที่ระดับแนวเส้นสีชมพูตัดกับเส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นสีเขียว ] ปัจจัยสนับสนุนว่า SET น่าจะไปที่จุดดังกล่าวก็คือรูปกราฟ double top เล็ก ๆ ที่เกิดจากความพยายามทำจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 1314 จุด สองครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งเป้าหมายของ double top ดังกล่าวชี้ไปที่บริเวณเส้นแนวนอนสีชมพูนั่นเอง เมื่อมองการเคลื่อนไหวของ SET ในกรอบช่องแนวโน้มสีเขียว จะสังเกตได้ว่า มีรูปแบบกราฟ ถ้วยกาแฟมีหู หรือ cup with a handle เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วดังที่ผมลากแนวร่างด้วยเส้นสีน้ำเงิน เมื่อเดือนที่แล้ว ดัชนี SET ได้พุ่งผ่านเส้นสีชมพูแล้วกระโดดเปิดแก็ปเอาไว้ แล้วไปต่อจนถึงระดับ 1314 จุด แต่ไปต่อไม่ไหวจึงย้อยกลับลงมาในปัจจุบัน เพื่อปิดแก็ปที่เปิดเอาไว้ และย้ำฐานให้แน่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับการจะไปยังเป้าหมายของรูปแบบกราฟ cup with a handle เมื่อวัดความลึกของถ้วยกาแฟจากก้นถ้วยถึงปากถ้วย พบว่าสูงประมาณ 1250-1100 = 150 ดังนั้นเป้าหมายของรูปกราฟ กาแฟรูปถ้วยจึงชี้ไปที่ระดับ 1250 + 150 = 1400 จุด ถ้าดูจากช่องแนวโน้มสีเขียว เส้นขอบบนจะอยู่เหนือขึ้นไปอีกเล็กน้อยประมาณ 1450 จุด  ตอนนี้รอดูกันก่อนว่า ฝรั่งจะกลับลำเข้าซื้อที่จุดดังกล่าวหรือไม่


===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

Saturday, October 27, 2012

ร้ายเกินไปมั๊ย ถ้า SET จะกลับลงไปจุดสูงสุดเดิม 1247 ?

     วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมใช้เวลาดูกราฟดัชนี SET รายวันระยะสองปี โดยวาดช่องแนวโน้มขาขึ้นด้วยเส้นตรงสีเขียวดังภาพข้างล่าง ผมวางเส้นแนวนอนสีชมพูไว้แสดงระดับสูงสุดเดิมของดัชนี SET ที่ประมาณ 1,247 จุด จะเห็นได้ว่าเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ดัชนี SET พุ่งผ่านเส้นสีชมพูแล้วกระโดดทิ้งช่องแก็ปเอาไว้ (breakaway gap)แล้วไต่ระดับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่โดยชนเส้นกึ่งกลางของช่องแนวโน้มสีเขียว (เส้นประ) แล้วปรับตัวลงมา จากนั้นพยายามทำจุดสูงสุดอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จจึงปรับตัวลงมาในปัจจุบัน หากดูกราฟในบริเวณเดือนครึ่งที่ผ่านมาจะพบรูปแบบ double top มีเป้าหมายชี้กลับลงไปที่ระดับเส้นสีชมพู ถามว่า จะร้ายเกินไปมั๊ย ถ้าดัชนีย้อนกลับไปที่เส้นสีชมพูเพื่อปิดแก็ปที่เปิดทิ้งเอาไว้ ดูจากในภาพก็อีกไม่ไกลเลยครับ แต่หากว่าดัชนีปรับลงไปที่จุดตัดระหว่างเส้นสีชมพูและเส้นขอบล่างของช่องแนวโน้มสีเขียวแล้วไม่หยุดอยู่แค่นั้นแต่ลงต่อไป จะเห็นได้ว่าเป้าหมายถัดไปคือเส้นสีเหลืองซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 150 วัน บริเวณเหนือระดับ 1,200 จุดเล็กน้อย ตรงนี้ก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าเส้นเหลืองยังเอาไม่อยู่อีก ตอนนั้นก็ ร้ายเกินไปแล้วล่ะครับ



===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

ติดตามเงินลงทุนของต่างชาติ วันที่ 26 ตุลาคม 2012 SET หลุดช่องแนวโน้มขาขึ้นระยะ 6 เดือน "ขนของขึ้นที่สูง เตรียมอพยพ"


     สิ้นวันที่ 26 ตุลาคม 2012 ผมกรอกปริมาณการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศในฐานข้อมูลแล้ววาดกราฟเทียบกับดัชนี SET ได้ดังภาพข้างล่างครับ


     ผมสร้างช่องแนวโน้มสีแดงของระดับดัชนี SET ในภาพจะเห็นว่าดัชนีได้หลุดออกจากช่องแนวโน้มแล้วอย่างชัดเจน ถ้าเป็นเมื่อปีที่แล้วก็เหมือนเขื่อนกระสอบทรายได้พังลง ใครไม่หนีก็คงต้องรอรับของแจกจากคุณสรยุทธ์และโก๊ะตี๋ที่ชั้นสองครับ ตอนนี้โอกาสที่ดัชนี SET จะไปที่จุดสูงสุดเดิมแถว ๆ 1247 จุด เป็นไปได้ค่อนข้างมาก เมื่อดู [ แนวต้านตาม Fibonacci ] ดัชนี SET ได้หลุดระดับ fibonacci 1,282.78# จุด ลงไปแล้ว ส่วนปริมาณหุ้นไทยในมือต่างชาติ (เส้นกราฟสีน้ำเงิน) เห็นได้ชัดว่าได้หลุดออกจากช่องแนวโน้มสีน้ำเงินลงข้างล่างเช่นกัน หากมองภาพรวมของการเคลื่อนไหวเงินทุนต่างชาติดังภาพข้างล่าง ตอนนี้กราฟสีน้ำเงินกำลังมุ่งหน้าไปทางจุดแดง อย่างที่ผมบอกไว้เมื่อวาน ถ้าผมเป็นฝรั่งที่เอาเงิน QE3 มาเมืองไทย ก่อนเข้าหุ้นไทยผมอยากเข้าที่จุดแดงมากกว่าจุดอื่น ๆ ครับ เข้าแล้วกินยาว ๆ ยังไงก็คุ้มครับ



===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

Friday, October 26, 2012

แผนการรักษาต้นทุนในภาวะตลาดลูกผีลูกคน

     ผมได้ติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนี SET และเงินลงทุนของต่างชาติอย่างสม่ำเสมอ จนเริ่มเห็นชัดว่า ต่างชาติทยอยถอนเงินออกจากตลาดหุ้นจนปริมาณหุ้นในมือนักลงทุนต่างชาติหลุดแนวต้านคือจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ จนผมโพสต์ไปว่า [ ไซเรนดังขึ้นกว่าเดิมแล้ว ควักแผนการเอาชีวิตรอดออกมาเตรียมไว้ได้เลย ] บ่ายวันที่ 26 ต.ค. 2012 ดัชนี SET หลุดจากระดับ Fibonacci 1,282.78# จุดลงไป เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ต้องดำเนินการตามแผนรักษาต้นทุนอย่างเคร่งครัดไม่มีการอิดออดใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วแผนที่ว่ามันหน้าตายังไงกันล่ะ ? ผมเอาตัวอย่างมาให้ดูตามภาพข้างล่างครับ



พอร์ตลงทุนของผมเป็นบัญชีมาร์จิ้น หมายความว่าผมใช้เงินตัวเองซื้อหุ้นครึ่งหนึ่ง และกู้จากโบรกเกอร์อีกครึ่งหนึ่ง เนื่องจากโบรกเกอร์คิดดอกเบี้ยตามอัตราตลาดดังนั้นผมจะกู้เฉพาะในขณะที่หุ้นกำลังอยู่ในขาขึ้นเท่านั้น และหากเริ่มมีสัญญาณว่าตลาดอาจจะเริ่มมีปัญหา จะต้องรีบใช้คืนหนี้พร้อมดอกเบี้ยให้หมดโดยทันที หาไม่แล้วไฟจะไหม้บ้านเอาได้ (เคยโดนมาก่อน) ด้วยนโยบายลงทุน "ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด" มูลค่าพอร์ตของผมที่หักลบหนี้ออกแล้วเป็นไปดังกราฟเส้นสีน้ำเงินในภาพข้างบนครับ ผมบันทึกมูลค่าเงินในพอร์ตซึ่งเป็นส่วนของผมล้วน ๆ อย่างไม่สม่ำเสมอ ตามแต่จะนึกขึ้นได้ จุดข้อมูลเลยขาดหายไปเป็นระยะ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะใช้ติดตามความก้าวหน้าของพอร์ตแล้ว นอกจากสัญญาณอันตรายที่ผม "sense" ได้จากการติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนี SET และเงินทุนต่างชาติดังได้โพสต์แชร์เพื่อนนักลงทุนอยู่เรื่อย ๆ แล้ว ดูจากพอร์ตของผมเองจะเห็นได้ว่า ในระยะสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าพอร์ตได้พุ่งกระฉูดขึ้นไปอย่างมาก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่เตือนว่า อันตรายอาจมาเยือนได้ทุกเมื่อ ดังนั้นต้องไม่ประมาท ผมได้วางแผนเอาชีวิตรอดโดยการตั้งกฎว่า
  1. หากสัญญาณอันตรายปรากฎชัดเจนแล้ว ต้องทำพอร์ตให้ปลอดหนี้ทันที
  2. ติดตามมูลค่าเงินในพอร์ตที่เป็นส่วนของผมเองล้วน ๆ (หักหนี้พร้อมดอกเบี้ยออกไปแล้ว) โดยทุกครั้งที่มูลค่าพอร์ตปลอดหนี้ ทำจุดสูงสุดใหม่ ผมจะคำนวณระดับของเงินทุนที่ต้องรักษาเอาไว้อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยกำหนดไว้ที่ 90% ของมูลค่าสูงสุด วาดเป็นเส้นแนวนอนสีแดงในกราฟ
  3. หากตลาดมีการปรับฐานจนมูลค่าพอร์ตลดต่ำกว่าเส้นสีแดง จะต้องขายล้างพอร์ตเพื่อเก็บเงิน 90% เอาไว้ลงทุนในโอกาสที่ตลาดเลวร้ายสุดขีด หากปรับฐานแต่มูลค่าพอร์ตปลอดหนี้ยังอยู่เหนือเส้นสีแดง ก็ไม่ต้องทำอะไร
หากทำตามแผนทั้งสามข้อนี้อย่างเคร่งครัด ในระยะยาวมูลค่าพอร์ตปลอดหนี้ของผมจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ  เพราะมีการจำกัดความสูญเสียไว้ที่ 10% ตลอดเวลา ในวันนี้ ดัชนี SET ได้หลุดจาก [ แนวรับ Fibonacci 1,282.78# จุด ] ซึ่งผมคิดว่าควรดำเนินตามแผนการรักษาต้นทุนทันที ดังนั้นจึงขายหุ้นบางส่วนทำกำไรใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยคืนให้โบรกเกอร์ การกระทำดังกล่าวทำให้มูลค่าพอร์ตปลอดหนี้ลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อวานนี้ลงมาประมาณ 5% และยังเหลืออีกประมาณ 5% จะลดถึงเส้นสีแดง ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าตลาดจะลงหนักไปกว่านี้อีกหรือไม่ ถ้าลดถึงเส้นแดงเมื่อไหร่ ผมต้องล้างพอร์ตเก็บเงินสดไว้ทำทุน ถ้าไม่ถึงเส้นแดงแล้วตลาดฟื้นตัว มูลค่าพอร์ตปลอดหนี้ก็จะไต่กลับขึ้นไปได้อีกครั้ง เนื่องจากเราไม่รู้ว่า อนาคตจะออกมาแบบไหน การจำกัดความเสี่ยงด้วยแผนสามข้อดังกล่าว ก็เหมือนการซื้อประกันรถยนต์ แบบประกันชั้นหนึ่ง นั่นเองครับ หากไม่เกิดอุบัติเหตุ ผมเสียเบี้ยประกันไปฟรี ๆ แต่หากเกิดอุบัติเหตุ ประกันช่วยรับภาระ ขับรถยังทำประกันชั้นหนึ่ง ลงทุนจะไม่ทำประกันเลย หรือทำแค่ พรบ. หรือครับ ?

===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าปัจจุบันของ (เงินสด + กำไรของผู้ถือหุ้นและเงินปันผลระหว่างถือหุ้น 10 ปี + เงินรับเมื่อขายกิจการทั้งหมด)

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

 facebook.com/truestockvalue
 twitter.com/thstockinvest
 gplus.to/chamlaehoon
หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"

Thursday, October 25, 2012

ราคาหุ้น Facebook กระโดดออกจากช่องแนวโน้มขาลงพร้อมปริมาณซื้อขายมหาศาล


     หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 2012Q3 ออกมาดีเกินคาด ราคาหุ้นของ Facebook กระโดดก้าวใหญ่มากกว่า 20% ในวันเดียว หลุดออกจากแนวโน้มขาลงด้วยปริมาณการซื้อขายมหาศาล (breakaway gap) ดังแสดงในภาพข้างล่าง ลักษณะเช่นนี้ตามตำราปัจจัยทางเทคนิคบอกว่าเป็นสัญญาณซื้อที่ดีมาก มาติดตามดูกันต่อไปว่าจะดีจริงอย่างตำราว่าไว้หรือไม่ครับ



===================================================
ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ + มูลค่าปัจจุบันของ [ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลรับระหว่างถือหุ้น 10 ปี ]

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"