Tuesday, June 11, 2013

กราฟไม่เคยโกหก แต่แล้วทำไมเราถึงไม่เชื่อกราฟ?

     เหตุการณ์ในวันนี้ เพื่อนนักลงทุนส่วนมากคงได้เห็นความ "โหด" ของตลาดด้วยตาตนเอง ผมติดตามกราฟของ SET รายวัน พบข้อน่าสังเกตหลายประการเลยเอามาสรุปไว้เป็นบทเรียนในโพสต์นี้ครับ จากภาพข้างล่าง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ซึ่งมีบทบาทสำคัญในความเป็นไปของดัชนี SET ได้แก่ เส้นคู่ EMA5D สีเหลือง และ EMA10D สีฟ้า เส้น EMA100D สีชมพู และ เส้น EMA200D สีส้ม จากกราฟจะเห็นว่า เส้น EMA100D สีชมพูเป็นแนวรับเมื่อดัชนีปรับฐานครั้งที่แล้ว ส่วนในครั้งนี้ EMA100D เอาไม่อยู่ และดัชนีก็ได้ทิ้งดิ่งลงมายั้งอยู่ที่ EMA200D สีส้ม
     มีผู้กล่าวไว้ว่า The charts never lie. เหตุการณ์ในระยะนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคำดังกล่าวเป็นจริงมากน้อยเพียงใด เราลองมาไล่ลำดับสิ่งที่กราฟบอกดังนี้ครับ

  • หลังจากพักปรับฐานใต้แนวเส้น Supply line จนลงมาแตะเส้น EMA100D แล้ว ในวันที่ 19 Apr 2013 ดัชนี SET ได้โผล่หัวเขียว ๆ ขึ้นเหนือเส้น Supply line เป็นครั้งแรก ดัชนีปิดสิ้นวันที่ ATC(1545.46) EMA5D(1528.68) > EMA10D(1524.93) ดังนั้นจึงเป็นสัญญาณซื้อ
      
  • 22 Apr 2013 ซื้อดัชนีราคาเปิดตลาด ATO(1558.50)
      
  • 21 May 2013 ดัชนีขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1649.77 จุด
      
  • 27 May 2013 เพียง 6 วันให้หลัง ดัชนีปิดสิ้นวันที่ ATC(1593.10) ต่ำกว่าเส้น EMA10D สีฟ้าอย่างชัดเจน  EMA5D(1614.12) < EMA10D(1616.57) ดังนั้นจึงเป็นสัญญาณขาย
      
  • 28 May 2013 ขายดัชนีราคาเปิดตลาด ATO(1594.03)
      
  • 6 June 2013 ดัชนีปิดหลุดเส้น EMA100D สีชมพูลงมาอย่างชัดเจน การเด้งกลับเป็นแท่งเขียวยาวในวันต่อมา ทำให้ดูเหมือนเป็นกราฟรูปแบบ bullish engulfing แต่วันแท่งเขียว ไม่ได้มาพร้อมกับปริมาณซื้อขายที่ลันหลาม
      
  • 7 June 2013 ดัชนีผ่านเส้น EMA5D สีเหลืองขึ้นไปได้ แต่ไม่ผ่านเส้น EMA10D สีฟ้า
      
  • 8 June 2013 ดัชนีทิ้งดิ่งลงมายันเส้น EMA200D สีส้ม เส้นนี้จะเอาอยู่หรือไม่ต้องติดตามต่อไป

จะเห็นว่า กราฟบอกให้ขายไปตั้งแต่วันที่ 28 May 2013 ตอนดัชนีอยู่ที่ 1594.03 จุด แต่ทำไมพวกเราไม่ขายกันครับ ? กราฟไม่เคยโกหก แต่เราไม่เชื่อกราฟเองต่างหาก ที่เราไม่ขายตามกราฟบอกเป็นเพราะว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" นั่นเองครับ


Short URL =  http://bit.ly/14SAkVn

==============================

ผ่างบการเงิน ชำแหละพื้นฐานหุ้น ลงทุนถูกเวลา รักษาต้นทุน นำหนุนกระแสเงินสด

มูลค่าที่แท้จริงของหุ้น = มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ + เงินสด + มูลค่าปัจจุบันของ [ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลรับระหว่างถือหุ้น 10 ปี ]

ค้นหา "ลงทุนหุ้นไทย"

หาเพื่อนนักลงทุนในกลุ่มสนทนา " ชำแหละพื้นฐานหุ้น"